รู้จักกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้
บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ TNITY ถือหุ้นในบริษัทย่อยในสัดส่วนร้อยละ 99.99 รวม 3 บริษัท คือ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด, บริษัท ทรีนีตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด และบริษัท ทรีนีตี้ อินเทลลิเจนส์ พลัส จำกัด และลงทุนในบริษัทร่วม 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท แอส เซท แบค โฮลดิ้งส์ จำกัด
บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2544 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 300 ล้านบาท และได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2545 โดยมีธุรกิจหลัก คือการลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งมีบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นบริษัทแกน มีสัดส่วนมูลค่าการลงทุนร้อยละ 99.40 โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้
- วันที่ 18 ธันวาคม 2545 บริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยทุนจดทะเบียน 700 ล้านบาท
- วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2548 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 914 ล้านบาท
- วันที่ 14 พฤษภาคม 2558 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 987,480,000 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น
- วันที่ 31 ธันวาคม 2559 บริษัทมีทุนชำระแล้ว 987,477,305 บาท
- วันที่ 9 มีนาคม 2561 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,631,215,955 บาท (ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2561 บริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 989,332,305 บาท) เพื่อรองรับการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ
- วันที่ 5 เมษายน 2562 บริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 995,944,380.00 บาท
บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในบริษัทย่อยในสัดส่วนร้อยละ 99.99 รวม 4 บริษัท และบริษัทร่วม 1 บริษัท รายละเอียดบริษัทย่อยและบริษัทร่วมมี ดังนี้
1. บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2542 โดยใช้ชื่อเดิมว่า บริษัทหลักทรัพย์ เอสซีบี บุคคลัภย์ จำกัด ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2542 ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2544 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้ตกลงขายหุ้น บรืษัทหลักทรัพย์ เอสซีบี บุคคลัภย์ จำกัด ให้แก่บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด ซึ่งได้มีการเปลี่ยนทีมผู้บริหารชุดใหม่ พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด" เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2544 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ซึ่งเรียกชำระเต็มจำนวนแล้ว และบริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียน และทุนชำระแล้วเป็น 750 ล้านบาทและ 1,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2548 และเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 ตามลำดับ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเป็น 1,200 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 บริษัทมีสาขาในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด จำนวน 7 สาขา
บริษัทได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ 7 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาการลงทุน การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ การยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และการจัดการกองทุนส่วนบุคคล รวมทั้งได้รับความเห็นชอบจากกลต. ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และตัวแทนสนับสนุนการขาย และรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
2. บริษัท ทรีนีตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด
ดำเนินธุรกิจด้านที่ปรึกษาการเงิน และงานด้านวาณิชธนกิจ ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด โดยบริษัทฯ ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานกลต.ให้ดำเนินการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินตามขอบเขตที่กลต.กำหนด นอกจากนี้บริษัทยังได้จดทะเบียนเป็นที่ปรึกษาประเภท ก กับศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาของกระทรวงการคลังเพื่อในบริการในฐานะที่ปรึกษาสาขา การเงินให้แก่หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน
3. บริษัท ทรีนีตี้ อินเทลลิเจนส์ พลัส จำกัด
ดำเนินธุรกิจด้านที่ปรึกษาวางระบบการควบคุมภายใน การบริหารความเสี่ยง การวางระบบบัญชี การตรวจสอบภายในให้แก่บริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงบริษัทที่เข้าจดทะเบียนแล้วก็ตาม โดยบริษัท ทรีนีตี้ อินเทลลิเจนส์ พลัส จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 โดยมีทุนจดทะเบียน และเรียกชำระแล้ว 3,000,000 บาท
4. บริษัท ทรีนีตี้ วัน จำกัด
ดำเนินธุรกิจในการร่วมลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2561 โดยมีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 250,000 บาท
5. บริษัท แอทเซท แบค โฮลดิ้งส์ จำกัด
เป็นบริษัทร่วมโดยมีการลงทุนในอัตราร้อยละ 49.95 ร่วมกับผู้ถือหุ้นอีกรายหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นดังกล่าวไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับบริษัท โดยบริษัท แอสเซท แบค โฮลดิ้งส์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2545 โดยมีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 100,000 บาท และได้ลงทุนในบริษัท คอนดูอิท แมนเนจเมนท์ เซอร์วิสเซส จำกัด ในอัตราร้อยละ 99.99 ซึ่งจัดตั้งโดยมีวัตถุประสงค์ในการทำหน้าที่บริหารจัดการการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ให้แก่บริษัทอื่น (Securitization) ด้วยทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว 500,000 บาท